Saturday, September 24, 2016

อยากทำธุรกิจน้ำดื่ม ทำไง?

หลายคนคงอยากทำอาชีพเสริม อยากทำธุรกิจน้ำดื่ม ทำไงดี?

การตั้งโรงงานน้ำดื่ม ตามมาตราฐานสาธารณสุข อย. และ GMP ควรได้รับการออกแบบโรงเรือนหรือโรงงาน โดยผู้เชียวชาญที่มีความรู้โดยตรง

ภายในโรงเรือนจะต้องประกอบไปด้วยห้องต่างๆ แบ่งแยกไว้เป็นสัดส่วน เช่น ห้องบรรจุ ห้องเครื่อง ห้องล้างภายนอก-ล้างภายใน ห้องเก็บขวดเปล่า เป็นต้น

บริษัท อควาเคมี จำกัด ออกแบบและติดตั้งระบบน้ำดื่มสำหรับใช้กับน้ำทุกชนิด ระบบกรองน้ำเพื่อผลิตน้ำดื่ม พร้อมทั้งระบบรีเวอร์สออสโมซีส (Reverse Osmosis) เพื่อใช้ดื่มสำหรับ พนักงานในโรงงาน, ครัวเรือน หรือสำหรับโรงงาน / ชุมชนที่ต้องการระบบในการการผลิต เพื่อบรรจุขวดจำหน่าย รวมถึง เครื่องบรรจุน้ำ (เครื่องบรรจุปิดฝาแบบโรตารี) เครื่องแพ็คโหลแบบกึ่งอัตโนมัติ/อัตโนมัติ ตู้อบฟิล์ม สำหรับระบบน้ำดื่มโรงงานและธุรกิจน้ำดื่ม พร้อมทั้งแนะนำการผลิตน้ำดื่มแบบครบวงจร เช่น การขอ อย., การคำนวณต้นทุน, จัดหาขวดบรรจุน้ำ, การสร้างแบรนด์ และ วิธีการตลาดเบื้องต้น


ระบบผลิตน้ำดื่ม กำลังได้รับความนิยมมาก โดยเฉพาะการนำไปติดตั้งใช้งานในแหล่งชุมชน เพื่อใช้บริโภคในชุมชน หรือเพื่อการจำหน่าย เนื่องจาก ติดตั้งสะดวก สามารถออกแบบให้อยู่ในพื้นที่จำกัดได้ กระบวนการผลิตเป็นระบบชุดปรับสภาพน้ำ (Pre-Treatment) เช่น การกรองหินปูนหรือการปรับสภาพน้ำให้เป็นน้ำอ่อน จากนั้นใช้ระบบ RO เพื่อการกรองเชื้อโรคแบคทีเรียที่มากับน้ำออกไป และเพิ่มความมั่นใจด้วยการฆ่าเชื้อด้วยแสง UV แล้วนำไปบรรจุขวด หรือภาชนะเพื่อใช้ หรือจำหน่ายต่อไป





มาดูกันว่า ทำยังไงถึงมีโรงงานน้ำดื่ม ให้ถูกต้อง ตามกฎหมาย

ตามพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ.2522 ได้กำหนดไว้ว่า ห้ามมิให้ผู้ใดตั้งโรงงานผลิตอาหารหรือน้ำดื่ม เพื่อจำหน่าย เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากผู้อนุญาต

1) สถานที่ตั้ง ต้องอยู่ในที่เหมาะสมและไม่ใกล้เคียงกับสถานที่น่ารังเกียจ เช่น คอกปศุสัตว์หรือสถานที่เลี้ยงสัตว์ สถานที่ผลิตวัตถุมีพิษ หรือแหล่งเสื่อมโทรม เป็นต้น อันอาจจะทำ ให้อาหารที่ผลิตเกิดอันตรายต่อสุขภาพของผู้บริโภค


 2) ตัวอาคาร

2.1 ต้องใช้สำ หรับผลิตอาหารเท่านั้น
2.2 ต้องมั่นคงและถูกสุขลักษณะ มีระบบแสงสว่างและระบบการถ่ายเทอากาศได้เพียงพอ 
2.3 มีผนังเรียบและทำ ด้วยวัสดุที่ทำ ความสะอาดง่าย
2.4 ในกรณีเป็นอาคารตั้งแต่ 2 ชั้นขึ้นไปและพื้นชั้นสองเป็นไม้ ให้ตีฝ้าเหนือบริเวณผลิตและท้องบันได 2.5 พื้นอาคารต้องทำ ด้วยวัสดุที่มั่นคงแข็งแรง เรียบ และทำ ความสะอาดง่าย
2.6 พื้นของบริเวณที่ใช้ทำ การผลิต ต้องเป็นแบบลาดเอียงลงสู่ทางระบายนํ้า 
2.7 ต้องติดหรือจัดป้ายแสดงสถานที่ผลิตไว้ภายนอกสถานที่ในที่เปิดเผยให้เห็นได้ง่าย


 3) ส้วม ที่ปัสสาวะ และอ่างล้างมือ 
3.1 ต้องมีส้วมที่ถูกสุขลักษณะ หากมีคนงานทั้งชายและหญิงจะต้องจัดให้มีส้วมแยกสำหรับคนงานชายและหญิงให้เป็นสัดส่วน
3.2 หน้าห้องส้วมต้องมีอ่างล้างมือ สบู่ หรือนํ้ายาฆ่าเชื้อ 
3.3 ในกรณีที่มีคนงานชายต้องมีที่ปัสสาวะชายที่ถูกสุขลักษณะ


4) แหล่งนํ้า: แหล่งนํ้าที่นำ มาใช้ในการผลิตนํ้าบริโภคในภาชนะบรรจุที่ปิดสนิท ต้องห่างจากแหล่ง โสโครกและสิ่งปฏิกูล หรือมีมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดการปนเปื้อนกับแหล่งน้ำ ผู้ผลิตต้องเก็บตัวอย่างน้ำจากแหล่งนํ้าไปตรวจวิเคราะห์คุณสมบัติทั้งทางเคมี กายภาพ และจุลินทรีย์ สมํ่าเสมออย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง และ/หรือทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแหล่งนํ้า เพื่อใช้เป็นข้อมูลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงคุณภาพของแหล่งนํ้าและเป็นข้อมูลใช้ในการปรับปรุงคุณภาพนํ้า

Thursday, February 25, 2016

โครงการประชารัฐ ตามมาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับ ตำบล ๆ ละ 5 ล้านบาท ทำให้ประชาชน มีแหล่งน้ำประปา บริโภคภายในครัวเรือน

ชุมชน หรือ หน่วยงานใดกำลังมองหา ตัวอย่างการเขียนโครงการประชารัฐ โครงการตามมาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับ ตำบล ๆ ละ 5 ล้านบาท

บริษัท อควาเคมี ขอเสนอ โรงผลิตน้ำประปาหมู่บ้าน  หรือ โครงการปรับปรุงระบบน้ำประปาหมู่บ้าน เพื่อให้ประชาชนในชุมชน มีแหล่งน้ำประปา บริโภคภายในครัวเรือน ประชาชนสามารถซื้อน้ำได้ในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาดส่วนรายได้จากการจำหน่ายน้ำประปา คณะกรรมการประปาหมู่บ้านก็จะนำมาเป็นค่าบำรุงรักษา ระบบประปานับเป็นโครงการตัวอย่างที่ประชาชนได้รับประโยชน์ตามรูปแบบประชารัฐ

เนื่องจากในช่วงหลายปีที่ผ่านมาภาคการเกษตรของประเทศไทยประสบปัญหาหลายประการ ได้แก่ ปัญหาภัยพิบัติทางธรรมชาติ ปัญหาต้นทุนการผลิตสูง และปัญหาราคาสินค้าตกต่ำ เป็นต้น โดยสาเหตุประการหนึ่งมาจากระบบโครงสร้างพื้นฐานในชุมชนไม่ได้รับการพัฒนา ตลอดจนยังขาดปัจจัยการผลิตที่จำเป็น ดังนั้น การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานเพื่อส่งเสริมความเข้มแข็งของเศรษฐกิจในระดับฐานราก ซึ่งครอบคลุมทั้งกระบวนการตั้งแต่กิจกรรมด้านการผลิต การเพิ่มมูลค่าสินค้า และการตลาด จะส่งผลให้ชุมชนพัฒนาอย่างมั่นคงแข็งแรงต่อไป

ดังนั้น คณะรัฐมนตรีในคราวการประชุม เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2559  ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีจึงมีมติเห็นชอบโครงการเพิ่มความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐที่กระทรวงการคลังเสนอ เพื่อเพิ่มปริมาณการลงทุนในระดับชุมชนผ่านกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง โดยมีรายละเอียดโครงการ ดังนี้

1. กลุ่มเป้าหมาย: รัฐบาลสนับสนุนเงินทุนให้แก่กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง จำนวน 79,556 กองทุน ผ่านสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) กองทุนละไม่เกิน 500,000 บาท ภายใต้วงเงินรวม 35,000 ล้านบาท

2. วัตถุประสงค์:
      1) เพื่อใช้ในการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานในชุมชน เช่น ยุ้งฉางชุมชน โรงตากพืชผลทางการเกษตร โรงสีชุมชน โรงงานผลิตปุ๋ยประจำชุมชน การจัดทำแหล่งเก็บน้ำชุมชน และเครื่องจักรสำหรับแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร เป็นต้น
      2) เพื่อดำเนินกิจกรรมอื่น ๆ ที่ชุมชนเห็นว่าเป็นประโยชน์ในการส่งเสริมศักยภาพในการประกอบอาชีพและความเป็นอยู่ในชุมชนให้ดีขึ้น

ทั้งนี้ การดำเนินการของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองตามโครงการนี้ให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติกำหนด

3. กรอบระยะเวลาดำเนินการ: การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานดังกล่าวต้องดำเนินการโดยเร่งด่วน จึงให้ดำเนินการเบิกจ่ายภายในระยะเวลา 6 เดือน นับตั้งแต่วันที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณ

ทั้งนี้ ผลจากการดำเนินโครงการดังกล่าวจะส่งผลให้กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองมีการลงทุนจำนวน 35,000 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 6 เดือน ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจให้เกิดขึ้นในระดับฐานรากและชุมชน ซึ่งจะเป็นรากฐานที่สำคัญต่อการขับเคลื่อนและพัฒนาเศรษฐกิจไทยต่อไป





สำหรับวิธีการดำเนินงาน โครงการนี้ ตามมาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับตำบล ( ตำบลละ 5 ล้าน ) ตามนโยบายของรัฐบาล มีการขุดเจาะบ่อบาลพร้อมทั้ง ก่อสร้างโรงผลิตน้ำประปา พร้อมระบบกรองน้ำ ทำให้ประชาชน มีแหล่งน้ำ สำหรับ อุปโภค บริโภค โดยได้รับ ความเห็นชอบจาก จากประชาชนให้ดำเนินโครงการตามมาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับตำบลฯ โดยการก่อสร้าง โรงเรือน ผลิตน้ำดื่มติดตั้งเครื่องสูบน้ำพร้อมทำบ่อเก็บกักน้ำ และ ติดตั้ง เครื่องกรองน้ำ





ในการก่อสร้าง มีบริษัทเอกชน มารับเหมา ดำเนินการแต่ ก็ได้มีการจ้างแรงงานประชาชนในพื้นที่ทำให้ประชาชนมีรายได้ ภายหลังจากที่ก่อสร้างแล้วเสร็จประชาชน ในพื้นที่มีแหล่งน้ำประปาสำหรับ อุปโภค บริโภค และสามารถลดค่าใช้จ่ายในการซื้อน้ำดื่ม ( ขนาดถังบรรจุ 20 ลิตร ) จากเดิมที่จะต้องซื้อน้ำจาก บริษัท เอกชน ถังละ 15 - 20 บาท แต่ ประชาชนสามารถซื้อน้ำจากโรงผลิตน้ำประปาหมู่บ้าน ในราคาถังละ 5 บาท


หากโครงการสำเร็จ ชาวชุมชนที่ประโยชน์ จะมีความรู้สึกดีใจที่ในชุมชนมีโรงผลิตน้ำดื่ม ทำให้ประชาชนมีน้ำสะอาด สำหรับ บริโภค เพราะมีเครื่องกรองที่ได้มาตรฐาน ทำให้มีสุขภาพดีขึ้นกว่าแต่ก่อน เนื่องจาก ในสมัยก่อนชาวบ้านจะขุดเจาะบ่อบาดาลนำน้ำมา อุปโภค บริโภคเอง ทำให้ ชาวบ้านบางรายเป็นโรคนิ่วแต่หลังจากที่ โรงผลิตน้ำดื่มก่อสร้างแล้วเสร็จชาวบ้านสามารถซื้อน้ำดื่มที่มีคุณภาพ ในราคาประหยัด ส่วนรายได้จากการจำหน่ายน้ำดื่มนั้น คณะกรรมการหมู่บ้านจะนำมาเป็นค่า บำรุงรักษา เครื่องกรองน้ำ และระบบ ต่าง ๆ ให้มีสภาพดีอย่างสม่ำเสมอ


โครงการตามมาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับ ตำบล ๆ ละ 5 ล้านบาท โดยการ ก่อสร้างโรงผลิตน้ำประปา หมู่บ้าน จึงนับเป็น โครงการตัวอย่าง ที่ ประชาชน ได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง ตามรูปแบบการมีส่วนร่วมกัน ระหว่าง รัฐบาลกับประชาชน ตามรูปแบบประชารัฐ

ประชารัฐ คือ ยุทธศาสตร์การพัฒนา ที่มีความแตกต่าง ทั้งการร่วมมือ รวมพลังกันของภาครัฐ ภาคสังคม ภาคเอกชน และภาคประชาชน เพื่อขับเคลื่อน สร้างสรรค์ และการมุ่งพัฒนาทุกภาคส่วนอย่างมีบูรณาการ


หากหน่วยงาน ของท่านสนใจ โรงผลิตน้ำประปาหมู่บ้าน หรือโครงการปรับปรุงระบบน้ำประปาหมู่บ้าน  สามารถติดต่อ ขอรายละเอียด เพิ่มเติมได้ที่

บริษัท อควาเคมี จำกัด
โทร: 0 2561 1540, 0 2561 1676
สายด่วน: 081 860 3834
LINE: @aquacheme ( มี @ ข้างหน้าด้วย )
Website: www.aquacheme.com



Sunday, February 7, 2016

วิธีดื่มน้ำเปล่าให้ถูกวิธี

ใครก็รู้ว่า น้ำเปล่า ดีต่อสุขภาพ แต่ใช่ว่าดื่มน้ำธรรมดาแล้วจะรู้สึกดีทันที ของแบบนี้อยู่ที่เทคนิคดีๆ เหมือนกัน เพราะหากดื่มน้ำถูกวิธีแล้ว สุขภาพก็จะดีได้ไม่ยาก

ก็เพราะ "น้ำ" นั้นมีประโยชน์ต่อร่างกายมาก เป็นสิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต เพราะร่างกายของเราประกอบด้วยน้ำเกือบ 70% ในแต่ละวันจะมีการขับน้ำออกจากร่างกายในรูปแบบปัสสาวะ เหงื่อ และหายใจประมาณ 0.5-2 ลิตร ทั้งยังเป็นส่วนสำคัญในการทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกาย เป็นส่วนประกอบของเลือด ช่วยการไหลเวียนโลหิต ทั้งยังช่วยควบคุมอุณหภูมิร่างกายให้คงที่ และยังช่วยย่อย ดูดซึม และนำพาสารอาหารไปยังเซลล์ต่างๆ ทั่วร่างกาย ที่สำคัญคือช่วยหล่อลื่นการทำงานอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย ทั้งการขับถ่ายและกำจัดของเสียและสารพิษออกจากร่างกายและช่วยให้สมองทำงานได้ดีขึ้น ผิวพรรณดูสดใส งามจากภายในสู่ภายนอกนั่นเป็นเหตุผลให้เราต้องดื่มน้ำ 6-8 แก้วต่อวัน เพื่อไปรักษาสมดุลในร่างกายนั่นเอง

หมอเอิง-อังศ์วรา ธีระตันติกานนท์ ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ เผยว่า โดยทั่วไปแล้วเราควรดื่มน้ำให้ได้วันละ 6-8 แก้ว หรือประมาณ 2 ลิตร หากยิ่งดื่มน้ำมากก็จะยิ่งขับถ่ายของเสียได้ดีมากขึ้น ทำให้ผิวพรรณชุ่มชื่น เปล่งปลั่ง ลดความเครียดได้อีกด้วย

“ช่วงเวลาที่ดื่มน้ำแล้วได้ประโยชน์ต่อร่างกายมากที่สุด คือ ดื่มหลังจากเพิ่งตื่นนอน จากนั้นดื่มน้ำก่อนอาหาร 1 ชั่วโมง และหลังอาหาร 1 ชั่วโมงในแต่ละมื้อ และสุดท้ายก่อนนอน 1 ชั่วโมง ซึ่งวิธีการดื่มน้ำไม่ได้ตายตัว อยู่ที่เทคนิคแต่ละคน แบ่งตามไลฟ์สไตล์ แต่ไม่ควรดื่มน้ำ 8 แก้วรวดเดียว เพราะจะทำให้โซเดียมในเลือดลดลง ทำให้กระหายน้ำยิ่งขึ้น สมองบวม ส่วนตัวจะดื่มเช้า 3 แก้ว เพื่อเติมน้ำให้เลือด ตอนกลางวัน 3 แก้ว เพื่อช่วยขับของเสียในร่างกาย ก่อนอาบน้ำ 1 แก้ว เพื่อลดความดันโลหิต และก่อนนอน 1 ชั่วโมง 1 แก้ว เพื่อกำจัดสิ่งตกค้างในร่างกาย ช่วยให้หลับสบาย แต่ต้องไม่ดื่มมากจนเกินไป เพราะจะทำให้นอนหลับไม่เพียงพอได้”

ไม่ว่าจะเทคนิคไหน ขอให้เป็นน้ำสะอาด ก็ให้ผ่าน 1 สเต็ปแล้ว

ขอขอบคุณwww.prachachat.net ผู้สนับสนุนเนื้อหา